ที่ปรึกษางานบุคคล

article

การประเมินผลงาน ที่ชัดเจนช่วยให้ทุกเรื่องการบริหารคนง่ายขึ้น

การประเมินผลงาน ที่ชัดเจนและการให้เสียงสะท้อนกลับพร้อมข้อมูลและข้อเท็จจริงย่อมเป็นเกราะคุ้มครองผู้ประกอบการในเวลาที่อยากแยกทางกับพนักงาน

ไม่เคยประเมินผลงานอย่างชัดเจน จู่ๆ อยากเลิกจ้าง แล้วให้เหตุผลว่า "ไม่ Perform " อย่าหาทำ

นี่คือตัวอย่างสถานการณ์เมื่อผู้ประกอบการอยากเลิกจ้างพนักงานเพราะไม่ชอบหน้าแต่ไม่เคยมี การประเมินผลงาน ที่ชัดเจนไว้เลย

ลูกค้าถาม : อยากเลิกจ้างพนักงานเพราะไม่ชอบหน้า แต่ไม่เคยประเมินผลงานไว้เลย ทำได้ไหม?

ที่ปรึกษาตอบ : การเลิกจ้างพนักงานโดยไม่มีการประเมินผลงานและด้วยเหตุผลที่ไม่ชอบหน้าโดยตรงนั้น ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมายแรงงานไทยค่ะ

การเลิกจ้างพนักงานนั้นต้องมีเหตุผลที่ถูกต้องตามกฎหมาย และต้องมีหลักฐานประกอบการตัดสินใจ เช่น

การประเมินผลงาน: เพื่อแสดงให้เห็นว่าพนักงานคนนั้นมีประสิทธิภาพในการทำงานไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้

การตักเตือน: เพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสปรับปรุงแก้ไขตนเอง
เหตุผลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน: เช่น การกระทำผิดวินัยร้ายแรง การขาดงานโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น

หากนายจ้างเลิกจ้างพนักงานโดยไม่มีเหตุผลอันควร พนักงานสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ค่ะ

เหตุผลที่ไม่ชอบหน้าส่วนตัว ไม่ถือเป็นเหตุผลที่ถูกต้องในการเลิกจ้างพนักงาน เพราะเป็นการเลือกปฏิบัติและขัดต่อหลักการความเสมอภาค

คำแนะนำสำหรับนายจ้าง:

ประเมินผลงานพนักงานเป็นประจำ: เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการตัดสินใจในการเลิกจ้าง หากมีความจำเป็น

มีระบบการตักเตือนที่เป็นธรรม: เพื่อให้พนักงานได้มีโอกาสปรับปรุงแก้ไขตนเอง

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแรงงาน: เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องก่อนตัดสินใจเลิกจ้างพนักงาน

การเลิกจ้างพนักงานเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ควรดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรม เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังค่ะ

ที่ปรึกษา ถามกลับ : คุณได้เคยแจ้งให้พนักงานทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและให้โอกาสในการแก้ไขหรือไม่?

ลูกค้าตอบ : ไม่เคยแจ้งให้พนักงานทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและให้โอกาสในการแก้ไขเลยสักครั้งค่ะ

ที่ปรึกษาตอบ : เข้าใจค่ะ การที่คุณยังไม่เคยแจ้งให้พนักงานทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและไม่ได้ให้โอกาสในการแก้ไขเลย นับว่าเป็นจุดที่อาจทำให้การเลิกจ้างครั้งนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกพนักงานฟ้องร้องได้

เหตุผลที่การกระทำดังกล่าวอาจเป็นปัญหาได้แก่:

ขาดความเป็นธรรม: การไม่ให้พนักงานรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและโอกาสในการปรับปรุง ทำให้พนักงานรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและอาจรู้สึกว่าถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรม

ขาดหลักฐาน: หากไม่มีหลักฐานการตักเตือนหรือการให้โอกาสในการแก้ไข จะทำให้ยากที่จะพิสูจน์ได้ว่าพนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานไม่เป็นไปตามที่กำหนด

เสี่ยงต่อการฟ้องร้อง: พนักงานอาจฟ้องร้องนายจ้างในข้อหาเลิกจ้างโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอาจเรียกค่าเสียหายได้

สิ่งที่คุณควรทำ:

ประเมินสถานการณ์อีกครั้ง: พิจารณาเหตุผลที่แท้จริงในการเลิกจ้าง มีวิธีอื่นในการแก้ไขปัญหาหรือไม่ เช่น การย้ายไปทำตำแหน่งอื่น หรือการฝึกอบรมพัฒนาพนักงาน

แจ้งให้พนักงานทราบ: แจ้งให้พนักงานทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา พร้อมทั้งให้โอกาสในการแก้ไขปัญหา

บันทึกหลักฐาน: บันทึกทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งปัญหาและการให้โอกาสในการแก้ไข เพื่อใช้เป็นหลักฐานในภายหลัง

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแรงงาน เพื่อให้ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

ข้อควรระวัง:

หลีกเลี่ยงการใช้คำพูดที่ดูหมิ่นหรือดูถูก: อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงและเป็นหลักฐานที่ทำให้คุณเสียเปรียบในการฟ้องร้อง

รักษาเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน: เช่น สัญญาจ้าง, ใบแจ้งปัญหา, บันทึกการประชุม เป็นต้น

ปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมาย: ปฏิบัติตามขั้นตอนการเลิกจ้างตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
การเลิกจ้างพนักงานเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ควรดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นธรรม เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและรักษาภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร

หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการเลิกจ้างที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแรงงานได้ค่ะ
.
.
.
สมัยนี้ ถ้าไม่อยากตกงาน และคว้าโอกาสได้เร็วกว่าผู้อื่น ทุกคนควรมี AI เป็นลูกน้อง หรือเป็นผู้ช่วย เพราะอะไรหนะหรือ เพราะจากบทสนทนานี้ " ที่ปรึกษาผู้ตอบคือ AI "

อยากได้ที่ปรึกษาที่สอนมากกว่างาน HR ลองทักเราดู
@line OA : https://lin.ee/QiB2ylS

#ที่ปรึกษาHR #HROD #HRfreelance

แชร์บทความได้ที่

Facebook
Twitter
LinkedIn

บทความเพิ่มเติม