“HR Strategy สำหรับ SMEs: หรูหราเกินไป หรือแค่ ‘ไม่รู้’ ว่ามีประโยชน์จริง?”
ในโลกของธุรกิจ SMEs ที่ผู้ประกอบการไทยต่างก็เร่งทำกำไร มีงานสำคัญหลายอย่างที่ไม่อยากเสียเวลาเสียเงินกับคนหรือระบบที่ “ดูหรูหราเกินไป” หนึ่งในนั้นคืองาน HR Strategy ที่มักโดนมองว่า “ไม่จำเป็น” และแน่นอน – “จ่ายแพงก็เปลืองเงิน!” เหล่าผู้ประกอบการมักจะมองว่า เดี๋ยวก็สอนพนักงานกันเองได้ ไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ที่ค่าจ้างสูงๆ ในขณะที่ตัวธุรกิจเองก็ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องเน้น!
“จัดการพนักงานไปทีละปัญหา” – วิธีพื้นฐานที่ไม่เคยตกยุค!
ทำไมจะต้องมี HR Strategy ที่ซับซ้อนในเมื่อเราสามารถแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ แบบ “วันต่อวัน” – พนักงานลาออก? ก็มาหาคนใหม่แทน พนักงานขาดกำลังใจ? ก็แค่พูดปลอบใจหรือไม่ก็เปลี่ยนงานให้! แค่นี้ก็แก้ได้แล้ว! ใครจะมานั่งวิเคราะห์ศักยภาพพนักงาน รายละเอียดการพัฒนาบุคลากร หรือวางแผนอนาคตให้ซับซ้อน ที่จริงพนักงานก็ควรทำงานหนักๆ ให้ได้ผลตอบแทนอย่างที่พอใจไม่ใช่หรือ?
“เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ต้องลงมือ” – ความคิดที่อาจทำให้พลาดโอกาสสำคัญ
แล้วจะเป็นอย่างไรถ้า SMEs ตัดสินใจจ้าง HR ที่เชี่ยวชาญกลยุทธ์เข้ามาทำงานเต็มตัว? แน่นอนว่า อาจจะได้พนักงานที่มีทักษะเชิงกลยุทธ์มาช่วยวางแผนการพัฒนาองค์กรในระยะยาว มีคนมาดูแลเรื่องของการพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นระบบ ช่วยวิเคราะห์ workload เพื่อลดความสูญเปล่าในการทำงานหรืออาจลดการลาออก แต่ก็…แพงไปน่ะสิ ใช่ไหม?
“อยากเป็นผู้ประกอบการที่คิดการณ์ไกล” – แต่ยังไม่ต้องลงทุนเรื่อง HR Strategy!
เมื่อมองระยะสั้น ผู้ประกอบการอาจคิดว่า “ค่อยๆ ดูกันไป” เพราะหลายคนยังคงเชื่อว่าค่าจ้างสูงของ HR Strategy จะเป็นภาระต้นทุน จนลืมนึกถึงต้นทุนแฝงที่มากับการไม่วางแผน เช่น พนักงานลาออกบ่อยจนต้องหาคนใหม่เรื่อยๆ เสียเวลาสอนงาน หรือความเหนื่อยล้าที่สะสมจนกระทบประสิทธิภาพการทำงาน ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้าของ SMEs ก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะถ้าองค์กรขาดการพัฒนาคนอย่างยั่งยืน ก็ย่อมยากที่จะมีทีมงานที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว
อย่าปล่อยให้ “ต้นทุนความไม่รู้” นำพาให้เสียหายยิ่งกว่าที่คิด
ในท้ายที่สุด องค์กรที่ตัดสินใจไม่จ้าง HR Strategy อาจจะไม่ได้เห็นความสูญเสียในทันที แต่ลองคิดดู หากธุรกิจสามารถก้าวขึ้นไปได้ในระดับที่ต้องการความเติบโตต่อเนื่อง เราก็จะเห็นผลลัพธ์ของการไม่ให้ความสำคัญกับการวางกลยุทธ์ด้านคนชัดเจนขึ้น ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ พนักงานที่มีศักยภาพอาจหันหลังให้ และที่สำคัญ – บริษัทก็จะเสียโอกาสในระยะยาวอย่างมากมายโดยไม่รู้ตัวเลย!
บทความนี้อาจฟังดูประชดประชันแต่เป็นการสะท้อนให้เห็นความสำคัญของการลงทุนในด้าน HR Strategy เพราะธุรกิจ SMEs ทุกที่ที่ต้องการความมั่นคงยั่งยืนในระยะยาว ควรจะพิจารณาการวางแผนเรื่องคนอย่างจริงจัง เพราะหากขาดการจัดการที่ดี จะทำให้เกิดผลเสียได้ในระยะยาวที่อาจยากจะแก้ไขค่ะ
- การวางแผนกำลังคน (Workforce Planning)
- HR Strategy จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ความต้องการบุคลากรในอนาคตว่า ต้องการตำแหน่งไหน ทักษะอะไร และควรเติมเต็มทีมอย่างไรให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในระยะยาว ช่วยป้องกันปัญหาคนไม่พอในช่วงที่งานยุ่งหรือคนเยอะเกินในช่วงที่ไม่จำเป็น ทำให้การใช้ทรัพยากรบุคคลเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- การพัฒนาและรักษาพนักงานเก่ง (Talent Management)
- ทีม HR Strategy จะออกแบบกระบวนการเพื่อค้นหาและคัดเลือกพนักงานที่มีศักยภาพสูงเข้ามาในองค์กร รวมถึงวางแผนพัฒนาเส้นทางความก้าวหน้าของพนักงานอย่างต่อเนื่อง เช่น โปรแกรมการฝึกอบรม การให้ feedback ที่ช่วยให้พนักงานเก่งขึ้น รู้สึกได้รับการพัฒนา และลดการลาออกไปหางานที่ดีกว่า
- วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรง (Culture Building)
- การมี HR Strategy เข้ามาวางรากฐานเรื่องวัฒนธรรมองค์กร จะช่วยให้พนักงานมีวิสัยทัศน์และค่านิยมเดียวกัน สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี ทำให้ทุกคนพร้อมร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายองค์กรและลดการลาออกเพราะไม่รู้สึกผูกพันกับบริษัท ซึ่งมีความสำคัญมากในองค์กรที่ต้องการความยั่งยืน
- การออกแบบระบบการประเมินผลงาน (Performance Management)
- ทีม HR Strategy จะช่วยสร้างระบบที่สามารถวัดและประเมินผลการทำงานของพนักงานอย่างเป็นระบบและมีความยุติธรรม เป็นการช่วยกระตุ้นให้พนักงานทุ่มเทและเห็นทิศทางการพัฒนาตนเอง ช่วยให้ผลงานองค์กรโดยรวมดีขึ้น และยังลดความไม่พอใจที่เกิดจากการประเมินที่ไม่ชัดเจนหรือไม่ยุติธรรม
- การพัฒนาระบบค่าตอบแทนและสวัสดิการ (Compensation & Benefits)
- HR Strategy จะวางแผนโครงสร้างค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เหมาะสมสำหรับการดึงดูดและรักษาคนเก่ง โดยทำให้มั่นใจว่าเงินเดือนและสวัสดิการที่องค์กรเสนอมีความคุ้มค่าต่อพนักงาน และไม่สร้างต้นทุนเกินความจำเป็น นอกจากนี้ยังช่วยจัดสรรงบประมาณในส่วนของรางวัลหรือโบนัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การวิเคราะห์และบริหารข้อมูลพนักงาน (HR Analytics)
- HR Strategy จะใช้ข้อมูลเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มและปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร เช่น วิเคราะห์สาเหตุการลาออก แนวโน้มการทำงานล่วงเวลาของพนักงาน หรือการขาดลาอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้เพื่อวางแผนและปรับปรุงการทำงานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- การสร้างแผนสำรองสำหรับความเสี่ยงด้านบุคลากร (Succession Planning)
- HR Strategy สามารถออกแบบแผนสำรองสำหรับตำแหน่งที่สำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมื่อพนักงานในตำแหน่งหลักลาออกหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน ธุรกิจจะยังคงดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นและมีคนพร้อมขึ้นมาทำงานในตำแหน่งนั้นทันที
ตัวอย่างเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานที่ HR Strategy สามารถเข้ามาช่วยทำได้ ช่วยทำให้การบริหารทรัพยากรบุคคลมีประสิทธิภาพมากขึ้น เกิดประโยชน์ทั้งกับพนักงานและตัวองค์กรเองในระยะยาวค่ะ
อยากได้ที่ปรึกษาที่สอนมากกว่างาน HR ลองทักเราดู @line OA : https://lin.ee/QiB2ylS #ที่ปรึกษาHR #HROD #HRfreelance