ที่ปรึกษางานบุคคล

article

ธุรกิจขายของออนไลน์ต้องเริ่มจัดการคนและองค์กรอย่างไร เมื่อยอดขายโต?

บริหารทีมให้เวิร์ค! ธุรกิจขายของออนไลน์ต้องเริ่มจัดการคนและองค์กรอย่างไร เมื่อยอดขายโต?

1. จากแม่ค้าออนไลน์สู่เจ้าของบริษัท – จุดเปลี่ยนที่ต้องรับมือ

ธุรกิจขายของออนไลน์ (E-commerce) เป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วมาก เจ้าของร้านจำนวนมากสามารถสร้างยอดขาย หลักล้านบาทต่อเดือน ได้จากการทำตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Shopee, Lazada, TikTok Shop, หรือ Facebook แต่หลังจากที่ยอดขายพุ่งขึ้น ปัญหาที่มักเกิดขึ้นคือ “ระบบภายในเริ่มรวน”

🔹 เจ้าของต้องทำทุกอย่างเอง → ไม่มีเวลาพัฒนาธุรกิจ
🔹 หาคนมาช่วยแล้ว แต่ปัญหาเพิ่มขึ้น → งานไม่เป็นระบบ
🔹 ลูกค้าเยอะขึ้น แต่การบริการไม่ดีขึ้น → รีวิวติดลบ ลูกค้าหาย
🔹 ไม่รู้จะตั้งโครงสร้างทีมอย่างไร → พนักงานไม่รู้หน้าที่

💡 จุดเปลี่ยนสำคัญที่เจ้าของธุรกิจต้องตระหนักคือ:
“ถ้าคุณอยากให้ธุรกิจเติบโตยั่งยืน คุณต้องเริ่มบริหารคนและจัดระบบองค์กร”

2. Pain Point ที่ธุรกิจขายของออนไลน์ต้องเจอ เมื่อถึงจุดขยาย

เมื่อธุรกิจโตเร็ว เจ้าของมักพบปัญหาด้าน การบริหารคนและองค์กร เช่น:

2.1 หาคนยาก และพนักงานอยู่ไม่นาน

📌 ตัวอย่าง: “จ้างพนักงานมา แต่ทำไมลาออกเร็ว?”
คุณบี เจ้าของธุรกิจขายกระเป๋าออนไลน์ เคยจ้างพนักงานแอดมิน 3 คน แต่ภายใน 6 เดือน ลาออกไป 2 คน เหลือเพียง 1 คนที่ทำงานแบบขอไปที

สาเหตุ:

  • ไม่มีการสอนงานที่เป็นระบบ (Onboarding)
  • ไม่มีเส้นทางเติบโต (Career Path)
  • วัฒนธรรมองค์กรไม่ชัดเจน

วิธีแก้:

  • สร้าง Job Description (JD) และ KPI ให้ชัด
  • มี Onboarding Process ต้อนรับพนักงานใหม่
  • สร้าง สภาพแวดล้อมที่ทำให้คนอยากอยู่ต่อ

2.2 งานกระจัดกระจาย ไม่มีระบบ

📌 ตัวอย่าง: “ลูกค้าทักมา แต่ไม่มีใครตอบ?”
คุณโอม ขายสินค้าสุขภาพออนไลน์ มีทีมแอดมิน 5 คน แต่บางครั้งลูกค้าทักมาถามข้อมูลซ้ำกัน และแต่ละคนให้คำตอบไม่เหมือนกัน

สาเหตุ:

  • ไม่มี CRM ระบบจัดการข้อมูลลูกค้า
  • ไม่มี คู่มือ SOP (Standard Operating Procedure)
  • ไม่มีการประชุมทีมสม่ำเสมอ

วิธีแก้:

  • ใช้ CRM เช่น Zendesk, HubSpot
  • ทำ คู่มือสคริปต์ตอบลูกค้า ให้ทีมงานใช้มาตรฐานเดียวกัน
  • ประชุมทีม เช็กยอด แก้ปัญหา และวางแผน ทุกสัปดาห์

2.3 ไม่มีตัวชี้วัดการทำงาน (KPI)

📌 ตัวอย่าง: “พนักงานทำงานหนัก แต่ยอดขายไม่โต?”
คุณแนน เจ้าของร้านเสื้อผ้าออนไลน์ สังเกตว่าทีมงานตอบลูกค้าเยอะขึ้น แต่ยอดปิดการขายกลับลดลง

สาเหตุ:

  • ไม่มี ตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI)
  • ไม่ได้วิเคราะห์ข้อมูลการขาย

วิธีแก้:

  • ตั้ง KPI เช่น อัตราการปิดการขาย 20% ต่อวัน
  • ใช้ Google Sheets / Notion ติดตามยอดขายแต่ละวัน

3. วิธีบริหารทีมและจัดการองค์กรให้ธุรกิจขายของออนไลน์โตได้อย่างยั่งยืน

3.1 วางโครงสร้างองค์กรให้เหมาะสม

โครงสร้างองค์กรไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่ต้องชัดเจน ตัวอย่างเช่น:
🔹 ทีมขาย & แอดมิน – ตอบลูกค้าและปิดการขาย
🔹 ทีมแพ็คของ & โลจิสติกส์ – จัดส่งสินค้าและสต๊อก
🔹 ทีมการตลาด – ทำโฆษณา ดูแล Social Media
🔹 ทีมสนับสนุน – บัญชี การเงิน และ HR

📌 เครื่องมือแนะนำ:
Trello / Notion – ใช้จัดการงานเป็นทีม
Zortout / FlowAccount – ใช้จัดการสต๊อกและการเงิน

3.2 สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้คนอยากอยู่

พนักงานไม่ใช่เครื่องมือ แต่เป็น “ทรัพยากรที่มีค่า”
✅ สร้าง Core Value ที่ชัดเจน เช่น “ลูกค้าต้องมาก่อน”
✅ มี Team Meeting เป็นประจำ เช่น Weekly Check-in
✅ จัดกิจกรรมพัฒนาทีม เช่น เวิร์กช็อปการขาย / การบริการลูกค้า

3.3 ใช้เทคโนโลยีช่วยบริหาร

Google Workspace / Slack – ใช้สื่อสารกันในทีม
HR Tech เช่น BambooHR / Paysliponline – ใช้จัดการเงินเดือนและสวัสดิการ
ระบบอัตโนมัติ เช่น Chatbot ตอบลูกค้าแทนแอดมิน

4. กรณีศึกษา: ร้านออนไลน์ที่ขยายเป็นบริษัทได้สำเร็จ

📌 Case Study: ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ X

  • จากทีม 5 คน → ขยายเป็น 30 คน ภายใน 1 ปี
  • ใช้ CRM ติดตามลูกค้า → ยอดขายเพิ่มขึ้น 40%
  • สร้าง Core Value ทีมงาน → พนักงานลาออกลดลง 70%

5. สรุป

เจ้าของธุรกิจขายของออนไลน์ต้องเริ่ม บริหารคน และ จัดระบบองค์กร ไม่ใช่แค่เน้นยอดขายเพียงอย่างเดียว ถ้าทำได้ ธุรกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืน

#ถ้าไม่รู้จะเริ่มอย่างไร เราสามารถช่วยให้คำปรึกษาและช่วยออกแบบระบบบริหารคนให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้ 😊

#ธุรกิจขายของออนไลน์
#วิธีบริหารพนักงานร้านออนไลน์
#การจัดการทีมงานขายของออนไลน์
#E-commerce Management
#ขยายธุรกิจออนไลน์ให้เติบโต

แชร์บทความได้ที่

Facebook
Twitter
LinkedIn

บทความเพิ่มเติม