ที่ปรึกษางานบุคคล

article

“ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน” ไม่ใช่แค่กระดาษ แต่คือเครื่องมือบริหารคนที่ทรงพลัง

“ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน” ไม่ใช่แค่กระดาษ แต่คือเครื่องมือบริหารคนที่ทรงพลัง

🔍 ทำไม “ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน” ถึงสำคัญมากกว่าที่คิด?

หลายครั้งที่ผู้ประกอบการและ HR มือใหม่มอง “ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน” เป็นแค่เอกสารที่ต้องมีไว้ให้ครบตามกฎหมายแรงงาน แต่ความจริงแล้ว…นี่แหละ คือเครื่องมือบริหารคนที่ดีที่สุดและ “ถูกกฎหมายที่สุด” ที่องค์กรสามารถใช้ได้

ข้อบังคับที่ดี ช่วยสร้างความชัดเจน ทั้งในมุมของสิทธิ หน้าที่ การประพฤติตน รวมถึงกระบวนการทางวินัย
และข้อบังคับที่ถูกสื่อสารอย่างเข้าใจ จะช่วยป้องกันความขัดแย้ง สร้างบรรยากาศการทำงานที่เป็นธรรม และส่งเสริมความมีวินัยในองค์กรได้จริง

⚖️ อ้างอิงตามกฎหมาย: ข้อบังคับต้องมีอะไรบ้าง?

ตามมาตรา 108 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541  “ ให้นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างรวมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป จัดให้มีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน……” อย่างน้อยต้องมีรายละเอียดดังนี้

    1. วันทำงาน เวลาทำงานปกติ และเวลาพัก
    2. วันหยุดและหลักเกณฑ์การหยุด
    3. หลักเกณฑ์การทำงานล่วงเวลาและการทำงานในวันหยุด
    4. วันและสถานที่จ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
    5. วันลาและหลักเกณฑ์การลา
    6. วินัยและการลงโทษทางวินัย
    7. การร้องทุกข์
    8. การเลิกจ้าง ค่าชดเชย และค่าชดเชยพิเศษ 27

ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง “ระเบียบ”
แต่คือ กลไกจัดการความเสี่ยง ด้านแรงงานสัมพันธ์ และเครื่องมือในการแก้ปัญหาการขาด ลา มาสาย ทะเลาะวิวาท ไม่เคารพหัวหน้างาน ฯลฯ ได้อย่างมีกรอบ มีหลัก และ “คุ้มครองทั้งสองฝ่าย”

💡 ข้อบังคับที่ดี ไม่ใช่แค่ถูกต้อง…แต่ต้อง “ใช้ได้จริง”

สิ่งที่ผู้เขียนพบในการให้คำปรึกษาองค์กรส่วนใหญ่ คือ…

“มีข้อบังคับ แต่ไม่มีใครอ่าน”
“มีกฎ แต่ไม่มีใครใช้เป็น”
“มีระเบียบ แต่ไม่เคยถูกใช้ในเวลาที่ควรใช้”

เมื่อพนักงานทำผิด ก็ไม่กล้าเตือน เพราะกลัวพนักงานไม่พอใจ
พอจะลงโทษ ก็ไม่มีหลักฐานว่าเคยแจ้งไว้
พอจะเลิกจ้าง ก็โดนฟ้องกลับ เพราะไม่ได้ทำตามกระบวนการที่กำหนด

💥 นี่คือจุดที่ “ข้อบังคับ” ควรกลับมาทำหน้าที่ของมันอย่างแท้จริง

📊 สถิติชี้ชัด: ข้อขัดแย้งในองค์กรส่วนใหญ่ เกิดจากการสื่อสารกฎระเบียบไม่ชัด

จากรายงาน ผลการพิจารณาคดีแรงงาน ประจำปี 2566
โดยสำนักงานศาลแรงงานกลาง (ณ กุมภาพันธ์ 2567) ระบุว่า

“ในปีงบประมาณ 2566 มีคดีแรงงานเข้าสู่การพิจารณาทั้งสิ้น 9,274 คดี โดยในจำนวนนี้ มีมากกว่า 3,800 คดี หรือคิดเป็นประมาณ 41% ที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม หรือความขัดแย้งเกี่ยวกับวินัยและข้อบังคับการทำงาน”

กรณีฟ้องร้องแรงงาน เกิดจากความไม่ชัดเจนหรือไม่สอดคล้องกับข้อบังคับของบริษัทเอง

เช่น กรณีการออกหนังสือตักเตือนโดยไม่มีระเบียบรองรับ
หรือการลงโทษวินัยโดยไม่เคยมีการแจ้งพนักงานมาก่อน

ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถ “ป้องกันได้” ถ้าเราใช้ข้อบังคับอย่างถูกต้อง

ซึ่งบ่งชี้ชัดว่า ปัญหาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แต่เกิดจากความไม่ชัดเจนของระเบียบ และการสื่อสารที่ไม่ทั่วถึง

ที่มา: รายงานผลการดำเนินงานสำนักงานศาลแรงงานกลาง ปีงบประมาณ 2566
(เอกสารภายในที่ปรึกษาได้รับจากลูกความหน่วยงานรัฐ)

🧭 ข้อเสนอแนะ : ทำให้ข้อบังคับเป็น “เครื่องมือ” ไม่ใช่ “เอกสาร”

  1. รีวิวข้อบังคับปีละครั้ง (หรือถี่กว่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารแรงงาน) โดย HR, ฝ่ายกฎหมาย และหัวหน้างานร่วมกัน
  2. อบรมหัวหน้างาน ให้เข้าใจหน้าที่ตามข้อบังคับ เช่น การแจ้งเตือน การลงโทษทางวินัย ฯลฯ
  3. ทำคู่มือเวอร์ชันย่อย สำหรับพนักงานให้เข้าใจง่าย (Infographic / วิดีโอ / Slide)
  4. จัดประชุมอธิบายปีละ 1 ครั้ง  โดยเฉพาะกับพนักงานใหม่
  5. บูรณาการข้อบังคับกับ Performance Management เช่น กำหนดพฤติกรรมที่คาดหวังและแนบท้ายกับระบบประเมินผล

🤝 ข้อบังคับ คือสัญญาใจขององค์กรกับคนทำงาน

หากองค์กรมีข้อบังคับที่ดี และใช้เป็นจริง
จะช่วยสร้าง “วัฒนธรรมความรับผิดชอบ” และลดข้อขัดแย้งได้มาก

ผู้เขียนเชื่อเสมอว่า “องค์กรที่เติบโต คือองค์กรที่มีระบบ และทุกคนยอมรับในระบบนั้น”

ข้อบังคับคือระบบที่ทุกคนควรรู้ ไม่ใช่รู้เฉพาะ HR หรือฝ่ายบริหาร
และในฐานะที่ปรึกษา ผู้เขียนยินดีเป็น “โค้ชประจำองค์กร” ที่ช่วยพัฒนาเรื่องนี้ให้ใช้ได้จริง

🏷️ #ข้อบังคับการทำงาน #HRสำหรับSMEs #บริหารคนด้วยระบบ #ที่ปรึกษาHR #โค้ชองค์กร #แรงงานสัมพันธ์ #HRConsultant #HRFreelance 

แชร์บทความได้ที่

Facebook
Twitter
LinkedIn

บทความเพิ่มเติม